สุภาษิตขงจู๊

เนื้อหาอย่างย่อ

พระโสภณอักษรกิจ ( เล็ก   สมิตะสิริ )  มาแจ้งความประสงค์แก่กรมศิลปากรว่าใครจะได้หนังสือสักเรื่องหนึ่งไปตีพิมพ์สำหรับแจก ในงานพระราชทานเพลิงพระศพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  

   กรมหมื่น พงศาดิศร มหิป   เพื่ออุทิศกุศลถวายสนองพระคุณและปรารภว่าถ้าได้เรื่องเกี่ยวกับจีนด้วยก็ยิ่งดี  กรมศิลปากรจึงได้เลือกสุภาษิตขงจื้อ ซึ่ง พระอมรโมลีสถิต  ณ  วัดราชบูรณะ   แปลไว้เมื่อพ.ศ. 2369 เรื่องหนึ่งกับเรื่องนางเคง  เกียงสอนบุตร  ซึ่งในบานพะแนก จด ไว้ว่า  เป็นของพระยาศรีสุนทรโวหารคัดไว้อีกเรื่องหนึ่งให้ตีพิมพ์ด้วยเห็นว่า  หนังสือสองเรื่องนี้เป็นเรื่องขนาดเล็ก  สมควรจะพิมพ์รวมกันได้ และในต้นฉบับสุภาษิตขงจู๊  ยังมีเรื่องคนร้อยจำพวกจดไว้ข้างท้ายอีกเรื่องหนึ่ง  แม้จะไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับสุภาษิตขงจู๊ แต่ถ้าจะทิ้งเสียก็เสียดาย   จึงได้คัดมารวมพิมพ์ไว้ในที่นี้ด้วย  เพื่อรักษาสำนวนและความคิดของเก่าอนึ่งเรื่องสุภาษิตขงจู๊  ฉบับที่ตีพิมพ์นี้  กรมศิลปากรมุ่งหมายจะรักษาต้นฉบับหนังสือของเก่าไว้ไม่ให้สูญเท่านั้นส่วนข้อความจะตรงกับต้นฉบับภาษาจีนที่แปลมาเพียงไร ท่านผู้อ่านที่รู้ภาษาจีนอาจตรวจดูได้ในหนังสือซี้จื้อ  หมวด ลุ่นงื้อ การพิมพ์สุภาษิตของจูครั้งนี้ กรมศิลปากร  ณ ที่นี้สักเล็กน้อยเท่าที่จะมีโอกาสค้นหามาเล่าได้  ขงจู๊  เกิดเมื่อก่อน พ.ศ. 8 ปีและถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 65 ตำบลที่เกิดเป็นหมู่บ้านน้อยแห่งหนึ่งซึ่งในปัจจุบันนี้อยู่ทางตะวันตกของมณฑล ซัวตัง (ชานตุง) ในประเทศจีนแต่ในสมัยขงจู๊  เรียกว่าเมืองล่อ ในยุคก่อนขงจู๊เกิด ย้อนขึ้นไปจนสมัยดึกดำบรรพ์  พงศาวดารจีนกล่าวว่ามีกษัตริย์อยู่ 3 องค์ที่ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร   ได้รับความร่มเย็นเป็นศานติสุข  คือ  เงี้ยวเต้  ซุ่นเต้และอู้เต้    เมื่อครั้งยังไม่ได้เป็นกษัตริย์ได้รับหน้าที่เป็นแม่กองออกไปกำกับการทดน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลล้นท่วมแผ่นดินให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ราษฎร  อู้เต้ได้ตั้งความเพียรกำกับการทดน้ำนี้ถึง 8 ปีจึงสำเร็จระหว่างนั้น อู้เต้เคยเดินผ่านหน้าบ้านของตนถึง 3 ครั้งแต่เพื่อรักษาหน้าที่อย่างเคร่งครัด   อู้เต้ไม่เคยแวะเข้าไปเยี่ยมบ้านแม้แต่ครั้งเดียว  อู้เต้เป็นพระปฐมกษัตริย์ในราชวงศ์แฮ่ ซึ่งในพงศาวดารจีนนับเป็นราชวงศ์แรก


หมวด: หนังสือหายาก
หมวดรอง: -
วันที่รับเข้า: 29/03/2018