“วัดหลวง” ที่ได้รับพระราชทานผ้ากฐินนั้นปรากฏว่ามีอยู่เป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นวัดที่ฝ่ายรัฐบาลพิจารณาจัดทำบัญชีทูลเกล้าฯถวาย ว่าวัดใดควรพระราชทานแก่องค์การหรือบุคคลใด อีกส่วนหนึ่งพระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริห์พระราชทานโดยตรง วัดดังกล่าวในส่วนหลังนี้มีประมาณ ๗ วัด ได้แก่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองพิษณุโลกวัดหนึ่ง
ปีนี้ กระทรวงการสาธารณสุขได้รับพระราชทานผ้าพระกฐินนำมาทอดถวาย ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองพิษณุโลกบรรดาข้าราชกาลสังกัดกระทรวงวงการสาธารณสุข จึงมีความปิติยินดีโดยทั่งหน้า และรู้สึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้าฯ
อนึ่ง ปรากฏว่าเมื่อข่าวนี้ทรายถึงเมืองพิษณุโลก บรรดาท่านราชการทั้งหลายตลอดทั้งพ่อค้า ประชาชน ด่างก็พลอยมีความปิติยินดี และแสดงให้ทราบว่าจะร่วมมือช่วยเหลือกระทรวงการสาธารณสุขในงานกฐินครั้งนี้โดยทั่วกัน
บรรดาข้าราชการกระทรวงการสาธารณสุข ต่างมีความภาคภูมิใจที่ได้รับไมตรีจิตในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง จึงได้คิดจะจัดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้เป็นอนุสรณ์ของงาน และเป็นที่ระลึกถึงไมตรีจิตต์ของพี่น้องชาวพิษณุโลกไว้ชั่วกาลนานด้วย ซึ่งในที่สุดพิจารณาเห็นว่า เมืองพิษณุโลกเป็นเมืองที่มีเกียรติประวัติอย่างสูง อันจะหาเมืองใดเทียบได้ยาก คือนอกจากมีพระพุทธชินราช อันเป็นพระพุทธรูปหล่อ ซึ่งทรงความศักดิ์สิทธิ์และศิริลักษณ์อันงามเลิศแล้ว เมืองพิษณุโลกยังเคยเป็นราชธานี ทั้งในสมัยกรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นแม้องค์ปฐมแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ก็ยังได้ทรงปกครองและสร้างพระราชกฤษฎาภินิหาร ณ เมืองพิษณุโลกนี้ ก่อนที่จะได้สถาปนาพระบรมราชจักรีวงศ์ แต่ตำนานเมืองก็ดีและตำนานพระพุทธชินราชก็ดี เท่าที่ศึกษาทรงจำกันมาแต่ก่อนนั้น ปรากฏว่ายังคลาดเคลื่อนอยู่บางประการ ฉะนั้น ข้าราชการกระทรวงการสาธารณสุขจึงมีความเห็นร่วมกันว่า ถ้าได้จัดการเขียนตำนานเมืองพิษณุโลกขึ้น ให้ถูกตรงตามหลักฐานพร้อมด้วยแสดงเกียรติ์ประวัติบางประการให้ปรากฏไว้ ก็จะเป็นอนุสรณ์อันเหมาะสมดีงามยิ่งกว่าสิ่งอื่นๆ
โดยเหตุดังกล่าวมากระทรวงการสาธารณสุข จึงได้ขอร้องต่อหลวงบริบาลบุรีภัณฑ์แห่งกรมศิลปากร ผู้เชี่ยวชาญทางโบราณคดีในปัจจุบันนี้ ให้ช่วยตรวจสอบหลักฐาน และรวบรวมเรียบเรียงขึ้นตามเจตน์จำนง ซึ่งคุณหลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ ก็ได้มีไมตรีจิตต์เอื้อเฟื้อ จัดทำให้สมปรารถนาและยังได้กรุณาไปทูลขอพระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ จากหม่อมเจ้าหญิงพูนพิศสมัยซึ่งก็มีพระเมตตาประทานให้ ได้มาประกอบเรื่องอีกตอนหนึ่งด้วยเรื่องตำนานเมืองพิษณุโลกอันเป็นอนุสรณ์แห่งความร่วมจิตต์ร่วมใจกัน ระหว่างชาวพิษณุโลกกับข้าราชการกระทรวงการสาธารณสุข ในงานกุศลกฐินพระราชทานครั้งนี้จึงได้เป็นรูปสำเร็จขึ้น โดยประการดังกล่าวมา
หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาสำคัญอยู่ที่พระนิพนธ์ ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประกอบกับพระเมตตาของหม่อมเจ้าหญิงพูนพิศสมัย และความมีไมตรีจิตติ์อันดีงามของหลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ กระทรวงสาธารณสุขจึงขอเทอดพระเมตตาคุณและบุญคุณให้ปรากฏไว้ในที่นี้
ในที่สุดขอกุศลบุญราศีอันเกิดจากการประกอบกุศลกิจครั้งนี้ จงบังเกิดความศิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลแก่ท่านผู้ได้มีส่วนร่วมการกุศล แม้ในประการใดๆตลอดถึงพี่น้องชาวพิษณุโลกทั้งหลายโดยทั่วกัน