8 พระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการซึ่งเป็นสมาชิกทั้งฝ่ายน่าฝ่ายใน ข้าเจ้าขอถือเอาโอกาศ ที่เป็นเวลาเปลี่ยนกรรมสัมปาทิกจัดการหอพระสมัดวชินรญาณ เป็นเวลาเปลี่ยนกรรมสัมปาทิกจัดการหอพระสมุดวชิรญาณ เป็นเวลาที่จะได้ชี้แจงการทั้งปวงอันกรรมสัมปาทิก ซึ่งข้าเจ้าเป็นหัวน่า ได้จัดการทั้งปวงในหอพระสมุด มาบรรจบปีหรึ่งตามกำลังความคิดแลกำลังกายความสามารถที่จะทำให้สำเร็จเป็นประโยชน์แก่หอสมุด โดยความหวังใจว่า เมื่อท่านทั้งปวงได้อ่านรายงานนี้แล้ว คงจัเป็นที่พอใจในการที่ได้ตจัดไปแล้ว แต่ก่อนๆมา สภานายกได้แจ้งรายงานหอพระสมุดเช่นนี้ในท้าหนังสือวชิรญาณวิเสศคราวที่สุด แต่ครั้งนี้ได้ปฤกษาเห็นพร้อมกันว่า ข้อความที่จะต้องกล่าวในรายงานนั้นคงจะยืดยาวกว่าทุกปี เพราะมีการจรคือฉลองหอพะรสมุดเป็นการใหญ่ขึ้นจะทำห้เปลืองน่ากระดาษหนังสือวชิรญาณวิเสศ จะว่าโดยย่อก็เกือบจะเต็ม ๑๒ น่า เหมือนหนึ่งตัดหนังสือพิมพ์เสียวิกหนึ่ง จึงได้คิดแบ่งออกเสียเป็นฉับบหนึ่งต่างหาก อีกประการหนึ่งเห็นว่า ตั้งแต่เริ่มจัดการหอพระสมุดนี้มาถึงแปดปีเข้าปีนี้ การที่ได้จัดนั้นค่อยเจริญขึ้นโดยลำดับ นับเป็นความอุตสาหากรรมสัมปาทิกที่ได้รับจัดการปีหนึ่งปีหนึ่ง แลการที่เจริญขึ้นทีละน้อยละน้อยเช่นนี้ ก็เป็นทีน่าจะตรวจสังเกตการที่เปลี่ยนแปลงมาอยางไรตามลำดับ เปนเหมือนจดหมายเหตุของการตั้งหอพระสมุด จึงได้ปฤกษาด้วยมสาชิก ที่ได้เป็นกรรมสัมปาทิกแต่ก่อนๆบางองค์ ตกลงพร้อมจกัน จะทำรายงานการหอพระสมุดในคราวกรรมสัมปาทิกนั้นๆ ขึ้นใหม่ ให้เรียงเรียงกันเป็นลำดับ ที่๑ ที่๒ จนถึงปีนี้เป็นปีที่๘ แยกเป็นเล่มๆ ต่างหากสำหรับจะได้เก็บต่อไปทุกปี เพื่อเป็นการง่ายๆที่จะค้นคว้าเรื่องราวของหอพระสมุด แลจะเป็นที่ชื่นชมยินดีของกรรมสัมปาทิก ผู้ได้มีความอุสาหจัดการหอพระสมุดให้มีความเจิญต่อไปภายน่า เพราะเหตุที่จะต้องเก็บข้อความลงรายงานโดยละเอียด แลจะต้องตั้งแบบทำนองรายงานขึ้นใหม่ ต้องแก้ไขมาก จึงไม่สามารถที่จะทำรายงาน ให้แล้วเสร็จลงในวันเปลี่ยนกรรมสัมปาทิกเช่นแต่ก่อนได้ การที่ต้องเลื่อนวันยื่นรายงานมาอีกหลายวันนี้ข้พเจ้าหวังใจว่าคงจะมีเหตุพอที่ท่านทั้งปวงจะอดโทษได้
๒๐๗ หน้า